ค่าตับสูงขึ้น: สาเหตุคืออะไร?
ค่าตับนับเม็ดเลือด ALT, AST และ GLDH จะเพิ่มขึ้นเมื่อเซลล์ตับได้รับความเสียหาย เช่น จากพิษจากเชื้อราหรือไวรัสตับอักเสบเฉียบพลัน การทำลายเซลล์ตับจะปล่อยเอนไซม์ออกมาและเข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีสารที่ผลิตโดยเซลล์ตับลดลง (อัลบูมิน, ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด)
- การอักเสบของท่อน้ำดี (ท่อน้ำดีอักเสบ), นิ่ว (cholelithiasis)
- เนื้องอกตับ
- โรคตับอักเสบ
- ตับแข็ง
- ตับคั่ง
- โรคปอดเรื้อรัง (cystic fibrosis)
- โรคประจำตัว เช่น Alagille syndrome (โรคทางพันธุกรรมที่หายาก)
บิลิรูบินไม่เพียงแต่เป็นค่าตับเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดงอีกด้วย ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกดังกล่าวเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ในโรคโลหิตจางบางชนิด (เช่น โรคโลหิตจางชนิดรูปเคียว) หรือเมื่อมีการให้เลือดที่ไม่ถูกต้อง สาเหตุอื่นของบิลิรูบินที่เพิ่มขึ้นคือ:
- เบิร์นส์
- การตายของเซลล์กล้ามเนื้อโครงร่าง (rhabdomyolysis) เช่น ในกรณีลมชักหรือการบาดเจ็บสาหัส
ค่าตับที่สูงขึ้น: ความสำคัญของผลหาร
หากค่าตับไม่ดี อัตราส่วนของค่าที่วัดได้ต่างกัน (ผลหาร) สามารถบ่งชี้โรคประจำตัวได้
อัตราส่วนของ AST ต่อ ALT (de-ritis quotient) สามารถช่วยในการประเมินสาเหตุของโรคตับอักเสบได้: ค่าที่ต่ำกว่า 1 เช่น เกิดขึ้นในโรคไวรัสตับอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งมีค่าประมาณ 1 ในโรคตับแข็งในตับ ในทางกลับกัน ค่าที่สูงกว่า 1 บ่งชี้ถึงโรคตับอักเสบเรื้อรัง และค่าที่สูงกว่า 2 มีแนวโน้มที่จะบ่งชี้ความเสียหายของตับจากแอลกอฮอล์