มีความแตกต่างระหว่างพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรัง พิษเฉียบพลันเกิดขึ้น เช่น ในการใช้ยาเกินขนาด งูกัด หรือการบริโภคสารพิษ
พิษประเภทต่อไปนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก:
- พิษจากยา
- การเป็นพิษจากสารเคมีในครัวเรือน เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาขจัดตะกรัน หรือน้ำยาล้างจาน
- การบริโภคพืชมีพิษ (ลิลลี่แห่งหุบเขา, พรีเว็ต, เซ็ทเซ็ท)
- ป่วง
- พิษจากเห็ด
- พิษจากเครื่องสำอาง
- พิษจากควัน (พิษเฉียบพลันร้ายแรง)
- การใช้ยาเกินขนาด (พิษเฉียบพลันร้ายแรง)
- สัตว์มีพิษกัดหรือต่อย (งูพิษ แม่ม่ายดำ และแมงมุมมีพิษอื่นๆ แมงป่อง ฯลฯ)
พิษวิทยาเกี่ยวข้องกับธรรมชาติของสารพิษต่างๆ และผลกระทบที่มีต่อสุขภาพ พิษวิทยามีสาขาย่อยต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึง:
พิษวิทยาทางอาหาร: มุ่งเน้นไปที่สารในอาหารและน้ำดื่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สิ่งเหล่านี้อาจมีต้นกำเนิดจากธรรมชาติหรืออาจถูกเพิ่มเข้ามาโดยการกระทำของมนุษย์
พิษวิทยาเกี่ยวข้องกับธรรมชาติของสารพิษต่างๆ และผลกระทบที่มีต่อสุขภาพ พิษวิทยามีสาขาย่อยต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึง:
พิษวิทยาทางอาหาร: มุ่งเน้นไปที่สารในอาหารและน้ำดื่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สิ่งเหล่านี้อาจมีต้นกำเนิดจากธรรมชาติหรืออาจถูกเพิ่มเข้ามาโดยการกระทำของมนุษย์
กรณีได้รับพิษควรรีบดำเนินการ!
หากสงสัยว่าเป็นพิษ ควรแจ้งเตือนแพทย์ฉุกเฉินทันที พิษเฉียบพลันสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ทันที ความช่วยเหลือด่วนจึงมีความจำเป็น คลินิกบางแห่งมีสายด่วนพิษซึ่งญาติสามารถค้นหาว่าต้องทำอย่างไรจนกว่าแพทย์ฉุกเฉินจะมาถึง (มาตรการปฐมพยาบาล)
การตรวจคัดกรองทางพิษวิทยา
ยาแก้พิษ
เมื่อระบุสารพิษที่กระตุ้นได้แล้ว ก็สามารถเริ่มการบำบัดที่เหมาะสมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพิษเฉียบพลัน การให้ยาแก้พิษสามารถช่วยชีวิตคนได้ นี่เป็นยาแก้พิษที่สามารถหยุดหรืออย่างน้อยก็ชะลอการกระทำของพิษในร่างกายได้ สำหรับสารพิษบางชนิด ก็สามารถกำจัดพวกมันออกจากคลังเลือดและคลังร่างกายโดยใช้สารที่เหมาะสมได้เช่นกัน