โดปามีน: คุณค่าของห้องปฏิบัติการหมายถึงอะไร

โดปามีนคืออะไร

มีการผลิตโดปามีนจำนวนมากในสมองส่วนกลาง ที่นี่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมและควบคุมการเคลื่อนไหว หากเซลล์ประสาทโดปามิเนอร์จิคตาย ผลของโดปามีนก็จะหมดลง และมีอาการที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น อาการสั่นและกล้ามเนื้อตึง (รุนแรง) ปรากฏขึ้น ภาพทางคลินิกนี้เรียกว่าโรคพาร์กินสัน

ภายนอกสมอง หลอดเลือดในช่องท้องและไตจะขยายตัวเนื่องจากผลของโดปามีน และส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้โดปามีนยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทที่เห็นอกเห็นใจ ในสตรีมีครรภ์ จะควบคุมการปล่อยโปรแลกติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่เจริญเติบโตของเต้านมและการผลิตน้ำนม

โดปามีนเป็นยา

เมื่อไหร่คุณจะตรวจพบโดปามีน?

ค่าอ้างอิงโดปามีน

โดปามีนสามารถวัดได้ในปัสสาวะ โดยปัสสาวะจะถูกเก็บสะสมไว้นานกว่า 24 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การวัดที่มีความหมาย ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ:

ค่ามาตรฐานโดปามีนต่อไปนี้ (เป็นไมโครกรัมต่อวัน) ใช้กับปัสสาวะที่เก็บได้ตลอด 24 ชั่วโมง:

อายุ

ค่ามาตรฐานโดปามีน

จนถึง 1 ปี

≤ 85.0 ไมโครกรัม/วัน

1 ปี 2

≤ 140.0 ไมโครกรัม/วัน

2 ถึง 4 ปี

≤ 260.0 ไมโครกรัม/วัน

4 ปี 18

≤ 450.0 ไมโครกรัม/วัน

ผู้ใหญ่

< 620 ไมโครกรัม/วัน

ระดับโดปามีนจะลดลงเมื่อใด?

หากเซลล์ประสาทโดปามีนตายหรือมีการผลิตโดปามีนน้อยเกินไป สมองจะไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวและขอบเขตของพวกมันได้อีกต่อไป ภาพรวมของผลกระทบโดปามีนที่หายไปคือสิ่งที่เรียกว่าโรคพาร์กินสัน

เนื่องจากความสำคัญของสารสื่อประสาทในระบบการให้รางวัล การขาดโดปามีนสามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้เช่นกัน

การขาดสารโดปามีน

ระดับโดปามีนจะเพิ่มขึ้นเมื่อใด?

Pheochromocytomas นำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นเนื่องจากการปลดปล่อยโดปามีนเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยบ่นว่าเหงื่อออกมาก ความดันโลหิตสูง และปวดศีรษะ มีอาการวิงเวียนศีรษะ

เห็นได้ชัดว่าโรคจิตและโรคจิตเภทมีความเกี่ยวข้องกับโดปามีนที่มากเกินไป ดังนั้นยาที่ปิดกั้นตัวรับโดปามีนบางชนิดจึงทำให้อาการดีขึ้น

โดปามีนสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้อย่างไร?

หากระดับโดปามีนในร่างกายเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างผิดปกติ ยาจะช่วยชดเชยการขาดหรือส่วนเกิน หนึ่งในตัวอย่างที่รู้จักกันดีที่สุดคือ L-DOPA (levodopa) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณทดแทนในสมองของผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน และชดเชยการขาดดุลโดปามีนที่มีอยู่ สารยับยั้งการดูดซึมโดปามีนยังเป็นยาสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หากความสมดุลของโดปามีนไม่สมดุลเนื่องจากความเครียด ความเครียดทางร่างกายหรือการอดนอน การทำสมาธิ การออกกำลังกายเพื่อการผ่อนคลาย หรือโยคะ ก็สามารถนำมาใช้เพื่อทำให้ระดับโดปามีนของร่างกายกลับเข้าสู่สมดุลได้