วิธีรักษาภาวะขาดเลือดชั่วคราว | การโจมตีขาดเลือดในช่องเก็บ (TIA)

วิธีการรักษาภาวะขาดเลือดชั่วคราว

เนื่องจากในระยะเฉียบพลันของ TIA จึงไม่สามารถแยกความแตกต่างจาก a ละโบมการรักษาด้วยโรคหลอดเลือดสมองในกรณีฉุกเฉินมักจะเริ่มก่อน หลังจากขั้นตอนการถ่ายภาพเช่น MRI ได้รับการดำเนินการเพื่อขจัดเลือดออกซึ่งประกอบด้วยการละลายสิ่งที่สงสัย เลือด ก้อนด้วยยา วิธีนี้เรียกว่าการบำบัด "lysis"

เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการรักษาด้วยยานี้สามารถพิจารณาขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมที่บีบรัดหลอดเลือดออกได้ นอกเหนือจากการบำบัดแบบเฉียบพลันแล้วจุดมุ่งหมายของการบำบัดต่อไปจะต้องมีเพื่อป้องกันการพัฒนาต่อไป ความผิดปกติของการไหลเวียนโลหิต. นอกจากนี้ยังใช้กับ TIA ด้วยเช่นกันเนื่องจากสิ่งนี้มักเกิดขึ้นในฐานะ "ลางสังหรณ์" ของการมา ละโบม และสิ่งนี้จะต้องได้รับการป้องกัน ขั้นตอนต่อไปมักประกอบด้วยการบำบัดระยะยาวด้วยสารยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดหรือที่เรียกว่ายาต้านการแข็งตัวของเลือดเช่นกรดอะซิติลซาลิไซลิก (ASA) หรือไตรโคลพิดีน

เมื่อไหร่ฉันจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง?

การโจมตีแบบขาดเลือดชั่วคราวเป็นไปตามความหมายที่ จำกัด ชั่วคราวซึ่งแสดงโดยคำว่า "ชั่วคราว" แม้ว่าจะยังคงมีการถกเถียงกันอย่างมากในแวดวงวิชาชีพเกี่ยวกับความยาวสูงสุดที่แน่นอน แต่อาการทั้งหมดจะต้องลดลงอย่างสมบูรณ์ภายในเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงเพื่อที่จะพูดถึง TIA อย่างไรก็ตามในกรณีส่วนใหญ่อาการจะสั้นลงมาก ในกรณีมากกว่า 50% อาการทั้งหมดจะหายไปภายในครึ่งชั่วโมงแรก อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดอาการไม่ควรรอให้หายเอง แต่ควรรีบเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

การพยากรณ์โรคขาดเลือดชั่วคราว

การพยากรณ์โรคของภาวะขาดเลือดชั่วคราวนั้นเป็นสิ่งที่ดีโดยทั่วไปเนื่องจากเป็นการ จำกัด ตัวเองและไม่ทิ้งความเสียหายถาวรใด ๆ อย่างไรก็ตามแม้ในกรณีของเหตุการณ์เดียวผลการรักษาที่จำเป็นควรได้รับหลังจาก TIA สาเหตุหลักมาจากการที่ TIA สามารถเป็นลางสังหรณ์ของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ ละโบม.

ดังนั้นหนึ่งในสามของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมดได้รับความทุกข์ทรมานจาก TIA ก่อนเหตุการณ์เพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองได้หลังจากเกิด TIA แพทย์จึงใช้คะแนน ABCD2 ซึ่งรวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ สำหรับโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตามมาควรเริ่มการบำบัดระยะยาวโดยใช้ยาร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือดเช่น ASA สำหรับ TIA หากเริ่มการบำบัดดังกล่าวโดยทั่วไปสามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นโรคที่ดี