ความเหนื่อยล้าเนื่องจากความดันโลหิตต่ำ | อาการของความดันโลหิตต่ำ

ความเหนื่อยล้าเนื่องจากความดันโลหิตต่ำ

เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และความกระสับกระส่ายอาจเกิดจากระดับต่ำ เลือด ความกดดันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากยังคงมีอยู่เป็นเวลานาน ตามที่ได้อธิบายไปแล้วในหัวข้อเกี่ยวกับอาการวิงเวียนศีรษะสิ่งนี้นำไปสู่การขาดตลาด (underperfusion) ของ สมองเนื่องจากความดันต่ำไม่สามารถขนส่งได้เพียงพอ เลือด ไป สมอง. ความเหนื่อยล้าจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิร้อนจัด เมื่ออุ่นแล้ว เลือด เรือ ขยายทางสรีรวิทยาเพื่อทำให้ร่างกายเย็นลง อย่างไรก็ตามในขณะที่เลือด เรือ ขยาย, ความดันโลหิต ยังลดลงอีกทำให้ โรคโลหิตจาง ใน สมอง เพิ่มมากขึ้นและก่อให้เกิดความเหนื่อยล้า

ความดันโลหิตต่ำที่มีชีพจรสูง

ชีพจรสามารถเทียบได้กับการเต้นของหัวใจ ชีพจรสูงเกินไป (หัวใจเต้นเร็ว) คือเมื่อ หัวใจ เต้นมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที การเต้นอย่างรวดเร็วของ หัวใจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบมักจะรู้สึกได้และถูกเรียกว่า หัวใจเต้นเร็ว.

การรวมกันของอาการต่ำ ความดันโลหิต และชีพจรสูงอาจเกิดจาก โรคโลหิตจางยกตัวอย่างเช่น โรคโลหิตจาง ส่วนใหญ่มักเกิดจากไฟล์ การขาดธาตุเหล็กจากนั้นเรียกว่าโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก การขาดเลือดอาจทำให้ต่ำ ความดันโลหิตซึ่งหมายความว่ามีความเสี่ยงที่อวัยวะและเนื้อเยื่อจะไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพออีกต่อไป หัวใจ พยายามที่จะหลีกเลี่ยงอุปทานที่ไม่เพียงพอนี้และส่งผลให้เต้นด้วยความถี่ของจังหวะที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะนำไปสู่อัตราชีพจรที่สูง

เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วร่างกายจะพยายามควบคุมการไหลเวียนของเลือดให้คงที่แม้จะมีความดันโลหิตต่ำก็ตามสาเหตุอื่น ๆ ก็อาจทำให้ชีพจรสูงขึ้นชั่วคราวหรือมีอาการใจสั่นได้เช่นกัน หากหลังจากนั่งหรือยืนเป็นเวลานานเลือดในเส้นเลือดที่ขาจะถูกปิดกั้นสิ่งนี้อาจนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า neurocardiogenic (vasovagal) เป็นลมหมดสติ สิ่งนี้นำไปสู่การสูญเสียสติในระยะสั้นเนื่องจากเลือดที่ค้างอยู่ในขาจะลดการเต้นของหัวใจ

ส่งผลให้เกิดความดันโลหิตต่ำ เพื่อชดเชยสิ่งนี้อัตราชีพจรจะเพิ่มขึ้นชั่วครู่ นอกเหนือจากการขาดเลือดและการเป็นลมหมดสติของระบบประสาทแล้วสาเหตุอื่น ๆ เช่นการใช้ยาลดความดันโลหิตเกินขนาดการมีเลือดออก (เช่นในระบบทางเดินอาหาร) หรือการสูญเสียของเหลวในปริมาณสูงอาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำและส่งผลให้ชีพจรสูง